nintendo switch crysis remastered ( english zone 2 )
หลังจากออกวางขาย Crysis Remastered ตำนานเกมยิงภาพสวยในอดีตบนคอนโซลทุกเครื่องแล้ว แต่ที่แฟนเกมทั่วโลกสนใจเป็นพิเศษคือ Nintendo Switch เพราะคอนโซลมีสเปกไม่ได้แรงอะไรเมื่อเทียบกับเครื่องอื่น แต่การที่มันสามารถสร้างออกมาได้ดีเกินคาดทำให้มีแฟน ๆ คาดหวังภาค 2 และ 3 ที่จะมาบน Switch เช่นกันว่าจะทำได้ดีเท่าภาคแรกและบนคอนโซลอื่นหรือไม่
โดยหลังจากวางขาย Crysis 2 3 Remastered บนคอนโซลอื่นแบบครบ ๆ แล้วล่าสุดถึงคิว Nintendo Switch เครื่องเกมลูกผสมเสียที ซึ่งหากคุณเล่น Crysis ภาคแรกมาแล้วจะพบว่าแม้จะเล่นได้ดีบน Switch แต่เมื่อเอาไปเทียบกับ PS4 แล้วมันแตกต่างกันมาก และบางส่วนเหมือนต้นฉบับมากกว่าเป็นการ รีมาสเตอร์ ทำให้การมาอีกครั้งบนเครื่องเกมของปู่น่าจับตามองว่ามันจะทำออกมาได้แตกต่างจากภาคแรกแค่ไหน
กราฟิกผิดคาดเพราะดูดีมาก
หลังจากภาคแรกทำได้ดีแต่ยังดูธรรมดา ทำให้การมาของภาคต่ออาจจะไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่พอได้สัมผัสแล้ว Crysis 2 และ Crysis 3 รีมาสเตอร์บน Switch มันทำได้ดีกว่าภาคแรกแบบน่าพอใจ ต้องชื่นชม Crytek ที่คำนึงถึงความสามารถในการปรับแต่งตัวเกมให้เข้ากับสเปกของเครื่องเกมที่แตกต่างกัน ภาพบน Nintendo Switch อยู่ในระดับดีมากหากเทียบกับมาตรฐานเกมภาพสวยบนคอนโซนลูกผสม ยังคงจัดเต็มทั้งรายละเอียดของตัวละครแบบไม่ตัดทอน
รวมทั้งฉากที่ใส่ลูกเล่นเข้าไปเช่นสายฝนที่ตกลงมาแล้วกระทบไปที่หน้าจอหรือแสงสีที่ดูดี ส่วนเฟรมเรตแม้ว่าจะไม่ลื่นที่สุดแต่ก็ไม่ได้ตกจนน่าเกลียด และส่วนตัวกราฟิกของภาค 2 และ 3 ดูดีกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเสียงประกอบก็ยังคงมาตรฐานเดิมที่มีมิติและจำเป็นในการเล่นด้วย เพราะมันจะทำให้เรารู้ที่ตั้งของศัตรู และหากเรามีเครื่องเสียงดี ๆ จะสามารถแยกชิ้นของเสียงซ้ายขวารวมทั้งรายละเอียดของเสียงประกอบฉากที่ทำได้ละเอียดตามมาตรฐานเกมยิงดี ๆ เกมหนึ่งควรจะมีและยังดูไม่เชย และอย่างน้อย ๆ มันก็ดีกว่า Crysis 2 และ Crysis 3 ต้นฉบับสมัยวางขายครั้งแรกก็แล้วกัน แปลว่าสเปกของ Nintendo Switch ก็ไม่ธรรมดานะ
ส่วนการควบคุมบังคับบน Nintendo Switch จะเล่นได้ทั้งแบบใช้ Joy-con ในโหมดพกพา และแบบแท็บเล็ต นอกจากนี้ยังรองรับการใช้ระบบจับการเคลื่อนไหวด้วย แต่การเล่นก็ต้องมือนิ่ง ๆ สักหน่อยไม่เช่นนั้นมุมกล้องจะเปลี่ยนเร็วจนเรามึนหัว ทางที่ดีที่สุดในการเล่นคือการใช้ JoyPro ของ Nintendo Switch เล่นน่าจะถนัดมือที่สุดแล้ว เพราะปุ่มของ Joy-con แบบปรกติจะเล็กทำให้การเล่นเกมยิงแบบ FPS อาจจะดูติดขัดในบางจุดยกเว้นแต่คุณจะเล่นจนชินมือ ซึ่งโดยรวมการบังคับมันก็ไม่ได้แตกต่างจากคอนโซลอื่น
ADVERTISEMENT
รูปแบบการเล่นเกมยิงคลาสสิก
เกมเพลย์อย่างที่รู้กันคือเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ที่รีวิวนี้จะนำเสนอภาค 2 กับภาค 3 ที่ผู้สร้างได้ปรับเปลี่ยนจากภาคแรกที่แต่เดิมจะเกิดบนเกาะและมีรูปแบบที่มีฉากกว้าง ๆ ให้สำรวจ เปลี่ยนมาเป็นเกมยิงฟอร์มดีแบบลุยยิงไปเรื่อย ๆ เหมือนกับ FPS ทั่ว ๆ ไป โดยในภาค 2 จะเกิดในมหานครนิวยอร์กที่ล่มสลายและเกิดโรคระบาดที่น่ากลัว แม้จะไม่ได้มีฉากให้สำรวจมากมายแบบเดียวกับภาคแรกแต่ก็มีการเล่าเรื่องที่เร้าใจ และยังคงรูปแบบมาตรฐานแม้จะเทียบกับเกมยิงดี ๆ ในยุคนี้ก็ตาม
นอกจากนี้ Crysis 2 ยังปรับปรุงกลไกเกมเพลย์ของซีรีส์อย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย ทำให้เข้าถึงได้ง่ายแม้ว่าอาจจะขาดเอกลักษณ์ไปบ้างก็ตาม โดยความสามารถของชุดนาโนที่เป็นจุดขายของเกมมีการปรับให้ดูดีขึ้น และระบบอาวุธปรับให้สมดุลกว่าเดิม อย่างไรก็ตามตัวละคร A.I. ในเกมอาจจะไม่ค่อยฉลาดมากนัก ส่วนเรื่องราวแม้ว่าส่วนใหญ่แฟน ๆ จะรู้อยู่แล้วแต่หากคุณไม่เคยเล่นมาก่อนแล้วการต่อสู้กับเอเลี่ยนยังคงน่าสนใจเพราะยังคงมีการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม
ภาค 3 ปิดท้ายซีรีส์ได้ลงตัว
ส่วน Crysis 3 เป็นการยำรวมความโดดเด่นของ 2 ภาคแรก แม้ว่าฉากอาจจะไม่ได้กว้างและมีอะไรให้สำรวจเท่าภาคแรก แต่ก็มีทางเลือกในการเล่นมากกว่าเดิม และมีสิ่งให้ทำมากกว่าแค่โจมตีศัตรู และยังมีการออกแบบด่านใช้ความสามารถของชุดได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการเล่นแบบพรางตัวที่ทำได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นรวมทั้งมีระบบ แฮกระบบคอมพิวเตอร์ในระยะไกลด้วย ใครชอบสายลอบสังหารต้องชอบโดยเฉพาะอาวุธธนูแบบใหม่ที่ช่วยให้การลอบฆ่าได้เงียบกริบมากกว่าเดิม และปรับแต่งการโจมตีได้ละเอียดกว่าเดิม